วันอังคาร ปางไสยาสน์
วันอังคาร
ปางไสยาสน์
ลักษณะพระพุทธรูป
พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถบรรทมตะแคงขวา เมื่อคราวจะปรินิพพาน
หลับพระเนตร พระเศียรหนุนพระเขนย พระหัตถ์ซ้ายทอดทายไปตามพระวรกายเบื้องซ้าย
พระหัตถ์ขวาหงายวางอยู่ที่พื้นข้างพระวรกาย
พระบาทซ้ายทับพระบาทขวาลักษณะตั้งซ้อนกัน
ประวัติและความสำคัญ
พระพุทธเจ้าครั้นโปรดสุภัททปริพาชกให้บรรพชาอุปสมบทและให้สำเร็จเป็น
พระอริยเจ้าเป็นปัจฉิมสาวกแล้ว
ต่อมาพระอานนท์จึงได้ทูลถามพระองค์ว่า พระฉันนะถือตัวว่าเป็นข้าเก่า
ติดตามพระองค์คราวเสด็จออกบวช เป็นคนว่ายากสอนยาก แม้จะกรุณาเตือนแล้วก็ตาม
เมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้ว ยิ่งจะว่ายากขึ้นไปอีก หาผู้ยำเกรงมิได้
ข้าพระองค์จะพึงปฏิบัติต่อพระฉันนะนั้นอย่างไร
พระพุทธเจ้าได้ตรัสสั่งให้สงฆ์ลงพรหมทัณฑ์แก่พระฉันนะ คือ ไม่พึงว่ากล่าว
ไม่พึงโอวาท ไม่พึงสั่งสอน เมื่อถูกพรหมทัณฑ์แล้ว จะสำนึกผิดเอง
ครั้นแล้วพระพุทธเจ้าได้ตรัสปัจฉิมโมวาท เตือนว่า ภิกษุทั้งหลาย
บัดนี้เราขอเตือนเธอทั้งหลาย สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรม เธอทั้งหลาย
จงทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ ด้วยความไม่ประมาทเถิด
ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว
ในลำดับแห่งการพิจารณาองค์แห่งจตุถฌาน
ก็บังเกิดมหัศจรรย์แผ่นดินใหญ่ไหวสะเทือนสะท้าน เกิดการโลมชาติ
ชูชันขันพองสยองเกล้า กลองทิพย์ก็บันลือลั่นในอากาศ
พร้อมกับการปรินิพพานของพระพุทธเจ้า บรรดาพุทธบริษัททั้งหลายพากันเศร้าโศก
ร่ำไห้ คร่ำครวญถึงพระองค์ พระอานนท์และพระอนุรุทธเถระได้แสดงธรรมเพื่อปลอบโยนมหาชน
พุทธศาสนิกชนเมื่อรำลึกถึงการเสด็จปรินิพพานของพระองค์
จึงได้สร้างพระพุทธรูปปางนี้ขึ้น เพื่อบูชาพระพุทธองค์
คาถาสวดบูชา
ยัสสานุภาวะโต
ยักขา เนวะ ทัสเสนติ
ภิงสะนัง ยัมหิ
เจวานุยุญชันโต รัตตินทิวะมะตันทิโต
สุขัง สุปะติ สุตโต จะ ปาปัง กิญจิ นะ
ปัสสะติ เอวะมาทิคุณูเปตัง
ปะริตตันตัมภะณามะ เส ฯ