ประวัติรอยพระพุทธบาทที่แม่น้ำนัมมทาและที่ภูเขาสัจจพันธ์
*************

...............รอย พระพุทธบาทที่แม่น้ำนัมมทาและที่ภูเขาสัจจพันธ์ ตามหลักฐานที่กล่าวไว้ในปุณโณวาทสูตร พระสุตตันปิฎก เล่มที่ ๒๓ ( ภาค ๓ เล่ม ๒) อรรถกถาปัญจสูทนี หน้า ๔๑๐ (ฉบับมหามกุฏฯ ฉลองพระฃนมายุสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ) มีลำดับเรื่องที่ปรากฏ ดังนี้

...............ครั้ง นั้น ในแคว้นสุนาปรันตะ มีพี่น้อง๒ คน คนพี่ฃื่อปุณณะ คนน้องชื่อจุฬาปุณณะ อยู่ในหมู่บ้านพานิชคาม (หมู่บ้านพ่อค้าแห่งหนึ่ง) ใน ๒ คนนั้นบางคราวพี่ชายก็นำเกวียน ๕๐๐ เล่ม ไ ปขายตามชนบท หรือตามเมืองต่างๆ เมื่อกลับมาก็บรรทุกสินค้าต่างๆตามชนบท หรือเมืองต่างๆมาขายยังแคว้นของตน บางคราวน้องชายก็ผลัดเปลี่ยนกันไป แต่ครั้งนี้พี่ชายเป็นฝ่ายนำสินค้าไปขายเอง และได้นำเกวียน ๕๐๐ เล่มบรรทุกสินค้าไปขายยังเมืองสาวัตถี ให้กองเกวียนพักอยู่ใกล้ๆพระเชตวันมหาวิหาร หลังอาหารเช้าแล้วก็นั่งพักผ่อนตามสบายท่ามกลางบริวาร

................ วันนั้น ชาวเมืองสาวัตถีกินอาหารเช้าแล้ว ก็อธิษฐานองค์อุโบสถ นุ่งห่มขาว ถือของหอมและดอกไม้เป็นต้น ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ พระเชตวันมหาวิหาร เขาเห็นคนเหล่านั้นเดินไป ทราบความว่า คนเหล่านั้นพากันไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรมแล้ว ต่อมา ตนเองพร้อมทั้งบริวารก็พากันไปฟังธรรมพร้อมกับบริษัทเหล่านั้นบ้าง เทื่อพระศาสดาทรงแสดงธรรมอยู่ด้วยพระสุรเสียงอันไพเราะ เขายืนอยู่ท้ายสุดของบริษัท ก็เกิดความคิดอยากจะบวช

............... ครั้นเมื่อบริษัทเหล่านั้นกลับไปแล้ว เขาจึงเข้าไปเฝ้าพระศาสดา ถวายบังคมแล้วทูลอาราธนาเพื่อเสวยพระกระยาหารในวันรุ่งขึ้น พร้อมทั้งพระภิกษุสงฆ์ ณ ที่กองเกวียนซึ่งตั้งอยู่ ณ ที่ใกล้พระเชตวันมหาวิหาร เขาได้ถวายมหาทานในวันรุ่งขึ้น เสร็จแล้วพระพุทธเจ้าทรงอนุโมทนา แล้วเสด็จกลับพร้อมทั้งพระภิกษุสงฆ์ หลังจากนั้น เขาได้สั่งมอบหมายทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีอยู่ให้น้องชายเป็นเจ้าของปกครอง ดูแล ตนเองเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าแล้วชอบรรพชาอุปสมบทในสำนักของพระศาสดา

................นัย ว่า เมืองสาวตถีไม่เป็นที่สัปปายะสำหรับท่าน ดังนั้น ท่านพระปุณณะ จึงเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อขอเรียนพระกรรมฐาน แล้วทูลลากลับไปยังแคว้นสุนาปรันตะบ้านเดิมของท่าน นัยว่า ท่านได้บรรลุพระอรหันต์ในพรรษาแรกนั่นเอง ครั้นต่อมา ท่านพระปุณณะเถระ ได้ให้ชาวบ้านอุบาสก อุบาสิกาช่วยกันสร้างศาลาด้วยไม้แก่นจันทน์แดงล้วน ที่วัดมกุลการาม เพื่อถวายพระศา่สดา เมื่อสร้างเสร็จแล้วพระปุณณะเถระก็ไปพระเชตวันมหาวิหารด้วยฤทธิ์เพื่อทูล เสด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับอาราธนาแล้ว

................ ในเย็นวันนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกพระอานนท์เถระมาตรัสสั่งว่า พรุ่งนี้พวกเราจะเที่ยวบิณฑบาตที่หมู่บ้านพานิฃคาม ในแคว้นสุนาปรันตะ แล้วรับสั่งให้พระอานนท์เถระเอาสลากไปให้พระภิกษุจับ ๔๙๙ รูป เพื่อจะไปยังสุนาปรันตะชนบทในวันพรุ่งนี้ ครั้นาุ่งขึ้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำการปฏิบัติสรีรกิจแต่เช้า แล้วเสด็จเข้าพระคันธกุฎีประทับนั่งเข้าผลสมาบัติ บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ของท้าวสักกะเกิดร้อนขึ้น ท้าวสักกะทรงพิจารณาเห็นว่า พระศาสดาจะเสด็จไปแคว้นสุนาปรันตะ จึงรับสั่งเรียกพระวิศวกรรมมารับสั่งว่า วันนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าจะเสด็จเที่ยวบิณฑบาตทางไกลประมาณ ๓๐๐ โยชน์ จงเนรมิตเรือนยอดไว้ ๕๐๐ หลัง ทำการเตรียมการเสด็จที่สุดซุ้มประตูพระเชตวัน ตั้งไว้ให้พร้อม

................ พระวิศวกรรม นั้น ได้กระทำอย่างนั้นแล้ว เรือนยอดสำหรับพระผู้มีพระภาคเจ้ามี ๔ มุข ของพระอัครสาวกทั้งสอง มี ๒ มุขที่เหลือมีมุขเดียว พระศา่สดเสด็จเข้าไปในเรือนยอดอันประเสริฐกว่าเรือนยอดที่ตั้งไว้ตามลำดับ เหล่าภิกษุ ๔๙๙ รูป เริ่มตั้งแต่พระอัครสาวกทั้งสอง ต่างก็เข้าสู่เรือนยอด ๔๙๙ หลัง มีเรือนยอดว่างอยู่หลังหนึ่ง เรือนยอดทั้ง ๕๐๐ หลังลอยไปในอากาศแล้ว

................ ครั้งนั้น พระศา่สดาเสด็จถึงภูเขาสัจจพันธ์ แล้วทรงหยุดเรือนยอดไว้ในอากาศ ณ ที่ภูเขานั้น มีดาบสมิจฉาทิฏฐิองค์หนึ่งชื่อสัจจพันธ์ ดาบสนั้นได้ทำมหาชนให้ยึอถือผิด เป็นผู้ ถึงความเลิศด้วยลาภสักการะอยู่ ก็ภายในจิตใจของดาบสนั้นมีอุปนิสัยแห่งพระอรหัตโชติช่วงอยู่เหมือนประทีปที่ อยู่ในตุ่ม พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นหยุดเรือนยอดไว้ในอากาศแล้ว จึงเสด็จลงไปที่ยอดภูเขาสุจจพันธ์แล้วแสดงธรรมแก่ดาบสนั้น ในเวลาที่ทรงแสดงธรรมจบลง ดาบสนั้นก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์ อภิญญาของท่านก็มากับมรรคนั่นเอง ท่านเป็นเอหิภิกขุทรงบาตรและจีวรที่สำเร็จด้วยฤทธิ์ แล้วเข้าสู่เรือนยอด

...............พระ ผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จถึงหมู่บ้านพานิชคามพร้อมกับภิกษุ ๕๐๐ รูปที่อยู่ในเรือนยอด แล้วเสด็จเข้าไปในหมู่บ้านพานิชคาม พวงกพ่อค้าได้ถวายทานใหญ่แกหมู่ภิกษุมีพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นประมุข แลัวทูลอาราธนาพระศา่สดาไปยังวัดมกุลการาม เสด็จเข้าศาลาไม้จันทน์แดง มหาชนพากันถือของหอมและระเบียบดอกไม้ไปเพื่อฟังธรรม พระศา่สดาทรงแสดงธรรม การหลุดพ้นจากกิเลศเครื่องผูกพันได้เกิดแก่มหาชนแล้วลา

............... เพื่ออนุเคราะห์มหาฃน พระศา่สดาประทับอยู่ ๒ - ๓ วันในที่นั้นนั่นเอง ครั้นประทับอยู่ในที่นั้น ๒ - ๓ วันแล้ว ตรัสสั่งให้พระปุณณะเถระอยู่ในที่นั้น ( วัดมกุลการาม ) พระองค์เสด็จกลับพร้อมด้วยภิกษุ ๕๐๐ รูป ในระหว่างทางมีแม่น้ำชื่อนัมมทานที ได้เสด็จไปถึงฝั่งแม่น้ำนั้น นัมมทานาคราชได้ถวายการต้อนรับพระศาสดา ได้กระทำสักการะแด่พระรัตนตรัยแล้ว พระศาสดทรงแสดงธรรมแก่นาคราชนั้รแล้ว นาคราชทูลขอพระศาสดาให้ประทานสิ่งที่พึงบูชา พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงแสดงเจดีย์คือรอยพระบาทไวัที่ฝั่งแม่น้ำนัมมทา รอยพระบาทนั้นเมื่อคลื่นซัดมาก็ถูกปิด (ถูกน้ำท่วม) เมื่อคลื่นลงก็ถูกเปิด (ไม่ลบ) จึงเป็นสิ่งที่สักการะที่ยิ่งใหญ่

.............. ต่อ จากนั้น พระศาสดาก็เสด็จไปยังภูเขาสัจจพันธ์ ทรงรับสั่งกับพระสัจจพันธ์ให้อยู่ในที่นั้น เพราะมหาชนถูกทำให้จมลงในทางอบาย ให้แก้ลัทธิของคนเหล่านั้นเสีย แล้วให้พวกเขาดำรงอยู่ในทางพระนิพพาน พระสัจจพันธ์นั้น ก็ทูลขอสิ่งที่พึงสักการะบูชาด้วย พระศาสดาทรงแสดงพระเจดีย์คือรอยพระบาทไว้บนหลังแผ่นหินทึบเหมือนประทับตรา ไว้บนก้อนดินเหนียวสดๆ ครั้นแล้วเสด็จกลับพระเชตวันทีเดียว.....